Averrhoa bilimbi L.
Averrhoa abtusangulata Stokes
Averrhoa obtusangula Stokes
ต้น ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 5-10 ม. แตกกิ่งก้านสาขามาก เปลือกต้นเรียบสีชมพู กิ่งก้านมีขนนุ่มปกคลุม และเปราะหักง่าย
ใบ ใบประกอบแบบขนนก ยาว 20-60 ซม. ใบย่อยเรียงสลับกันเป็นคู่ มี 25-35 ใบ รูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้างประมาณ 5.5 ซม. ยาวประมาณ 12 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ ด้านล่างใบมีขนนุ่ม
ดอก ออกเป็นช่อกระจุกอยู่ตามลำต้นและกิ่งก้าน ช่อดอกยาวประมาณ 15 ซม. ดอกสีแดงอมม่วง กลางดอกมีสีนวล กลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อนปนแดง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป้นหลอดสั้น ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ปลายมน เมื่อดอกบานขนาดผ่าศูนย์กลาง 1.0-1.5 ซม. มีเกสรเพศผู้ 10 อัน สั้น 5 อัน ยาว 5 อัน อยู่สลับกัน
ผล สีเขียว รูปกลมยาว ฉ่ำน้ำ ผิวเกลี้ยง กว้าง 2-5 ซม. ยาว 4-10 ซม. เป็นพูตื้นตามยาว 4-5 พู เมื่อผลสุกมีสีเขียวแกมเหลือง รสเปรี้ยวจัด
เมล็ด ลักษณะแบนยาว สีขาว
เป็นพืชที่ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี และไม่มีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ขึ้นได้ทั่วไปในทุกภาคของประเทศไทย
ประเทศอินโดนิเซีย และพบตามชายทะเลในประเทศบราซิล
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ - อินโดนีเซีย
ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง ต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดจะมีทรงพุ่มสูงใหญ่ และแข็งแรงกว่าต้นที่ได้จากการตอนกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี จึงจะเริ่มเก็บผลได้ ต้นที่ได้จากการตอนกิ่งจะให้ผลหลังจากปลูกลงดิน 5-8 เดือน หลังจากปลูกได้นาน 3-4 เดือน ควรหมั่นตัดแต่งกิ่ง
ต้น ใช้ต้นอ่อนเป็นยาระบาย
ราก เป็นยาแก้พิษร้อนใน กระหายน้ำ ช่วยลดไข้ ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร แก้เลือดออกในกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยแก้โรคริดสีดวงทวาร และบรรเทาการอักเสบของลำไส้ใหญ่ อีกทั้งยังแก้อาการคัน แก้คางทูม แก้ไขข้ออักเสบ รักษาสิว รักษาซิฟิลิส บรรเทาโรคเก๊าท์ได้ด้วย
ใบ มีรสเฝื่อน ใช้ต้มหรือบดชงน้ำร้อนดื่มแก้ลำไส้ใหญ่อักเสบ ไขข้ออักเสบ แก้กามโรค รักษาสิว รักษาซิฟิลิส แก้คางทูม ตำพอกแก้อักเสบ แก้คัน
ดอก มีรสเปรี้ยวฝาด นำมาชงเป็นชา แก้ไอ
ผล มีรสเปรี้ยวฝาด ใช้ปรุงรสอาหาร ทำน้ำผลไม้ ทำผลไม้แห้งและแช่อิ่มได้ดี ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงร่างกาย สมานแผล ขับเหงื่อ แก้ปวดกระดูก แก้ไข้ แก้ไอ เป็นยาฟอกโลหิต แก้เสมหะเหนียว แก้เลือดออกตามไรฟัน แก้ฝาดสมาน แก้ริดสีดวงทวาร คั้นเอาน้ำมาหยอดตา บรรเทาอาการตาอักเสบ น้ำคั้นจากผลใช้ลบรอยเปื้อนบนมือ เสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ ได้ดี
ทั้งต้นและใบมีกรดไฮโดรไซยานิก (hydrocyanic acid) ที่เป็นพิษกับร่างกาย จึงไม่ควรกินสด
คณะกรรมการวิชาการดำเนินงานส่วนสวนสมุนไพรพืชสวนโลก. 2549. สวนสมุนไพรในงานมหกรรมพืชสวนโลก 2549. พิมพ์ครั้งที่ 1. บริษัท สามเจริญพาณิชย์ (กรุงเทพฯ) จำกัด. กรุงเทพมหานคร. 464 น.
วีณา เชิดบุญชาติ. 2543. ปลูกผักไทยได้ทั้งอาหารและยา. พิมพ์ครั้งแรก. สำนักพิมพ์บ้านและสวน. กรุงเทพมหานคร.
องค์การสวนพฤกษศาสตร์. 2541. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 3. โอ.เอส.พริ้นเฮ้าส์. กรุงเทพมหานคร. 153 น.
อุไร จิรมงคลการ. 2547. ผลไม้ในสวน. Fruits. พิมพ์ครั้งแรก. สำนักพิมพ์บ้านและสวน. กรุงเทพมหานคร.
สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน). 2553. “ตะลิงปลิง”. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://eherb.hrdi.or.th/search_result_details.php?herbariumID=1083&name=ตะลิงปลิง (25 ตุลาคม 2559).
Thaiherbal.org. 2014. “ตะลิงปลิง”. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://thaiherbal.org/230 (25 ตุลาคม 2559).
The Plant List. 2013. “Averrhoa bilimbi L.”. [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-2666745 (21 กรกฎาคม 2560).