ชื่อไทย
สำโรง
ชื่อท้องถิ่น
จำมะโฮง (เชียงใหม่); มะโรง, มะโหรง (ปัตตานี); โหมโรง (ภาคใต้)
ชื่อสามัญ
<p>Bastard Poon,&nbsp;Pinari, Java olive, Skunk tree</p>
ชื่อวิทยาศาสตร์

 Sterculia foetida L.

สกุล
Sterculia
สปีชีส์
foetida
ชื่อพ้อง

Clompanus foetida (L.) Kuntze

Sterculia mexicana var. guianensis Sagot

Sterculia polyphylla R. Br.

ชื่อวงศ์
MALVACEAE
กลุ่มพรรณไม้
ไม้ดอก
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ต้น ไม้ต้นผลัดใบ สูงได้ถึง 30 ม. ลำต้นเปลาตรง เปลือกเรียบ สีเทาอมน้ำตาล มีช่องอากาศกระจายทั่วไป ลำต้นและกิ่งมีรอยแผลใบชัดเจน กิ่งอ้วนสั้น มีขนสั้นนุ่ม หูใบรูปลิ่มแคบ ร่วงง่าย

ใบ ใบประกอบแบบนิ้วมือ ออกเป็นกระจุกที่ปลายกิ่ง มีใบย่อย 5-9 ใบ รูปรีหรือรูปขอบขนานแกมรูปรี กว้าง 3.5-6 ซม. ยาว 10-20 ซม. ปลายแหลมหรือเป็นติ่งแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง เกลี้ยงหรือค่อนข้างเกลี้ยง เส้นใบเห็นชัดทั้ง 2 ด้าน ก้านใบยาว 13-20 ซม. ก้านใบย่อยยาวประมาณ 5 มม. เกลี้ยง

ดอก ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามปลายกิ่งหรือเหนือรอยแผลใบ แต่ละช่อยาว 10-30 ซม. ดอกแยกเพศ ดอกตูมรูปไข่ กว้างประมาณ 5 มม. ยาวประมาณ 10 มม. ก้านดอกยาว 1-1.5 ซม. เกลี้ยง กลีบเลี้ยงสีแดงอมม่วง รูปกรวยกลับ ปลายแยกเป็น 5 แฉก  หรือบริเวณรอยแผลที่ใบหลุดร่วง ดอกแยกเพศ ดอกตูมรูปไข่ กลีบเลี้ยงเชื่อมกันปลายแยกเป็น 5 แฉก บริเวณโคนมีขน ดอกเพศผู้ มีเกสรเพศผู้ 14-15 อัน ดอกเพศเมีย มีรังไข่อิสระ รูปไข่ ก้านเกสรเพศเมียมีขน ยอดเกสรเพศเมีย 5 แฉก แต่ละแฉกกว้าง 3-4 มม. ยาว 1-1.5 ซม. มีขน โดยเฉพาะใกล้ส่วนปลายของกลีบ ดอกเพศผู้มีเกสรเพศผู้ 14-15 อัน และเกสรเพศผู้เป็นหมัน 14 อัน ดอกเพศเมียรังไข่มี 5 คาร์เพล รูปไข่ แยกกัน มีขน แต่ละคาร์เพลมีออวุลประมาณ 20 เม็ด ก้านยอดเกสรเพศเมียเชื่อมติดกัน ยาวประมาณ 5 มม. มีขน ยอดเกสรเพศเมียมี 5 พู 

ผล แบบผลแห้งแตกแนวเดียว ออกเป็นกลุ่ม 3-5 ผล รูปไต กว้าง 6-9 ซม. ยาว 8-10 ซม. เปลือกหนาและแข็ง สีเขียว สุกสีแดง เมล็ดสีดำ รูปทรงกระบอก กว้างประมาณ 1.3 ซม. ยาวประมาณ 2.5 ซม. มี 10-20 เมล็ด

สภาพนิเวศ
กลางแจ้ง
สภาพนิเวศวิทยา

พบตามพื้นที่เปิดโล่งหรือกึ่งเปิดโล่งในป่าเบญจพรรณและตามชายฝั่ง ที่สูงจากระดับทะเลปานกลาง 0-300 ม.

 

 

ถิ่นกำเนิด

อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ เมียนมา ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู อินโดนีเซีย (เกาะสุมาตรา หมู่เกาะซุนดาน้อย) และฟิลิปปินส์

การกระจายพันธุ์

ในประเทศไทยพบทางภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออก และภาคใต้ ในต่างประเทศพบที่อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ เมียนมา ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู อินโดนีเซีย (เกาะสุมาตรา หมู่เกาะซุนดาน้อย) และฟิลิปปินส์

การปลูกและการขยายพันธุ์

ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

ระยะเวลาการติดดอก
มกราคม-กุมภาพันธ์
ประเภทการใช้ประโยชน์
อาหาร,สมุนไพร,พืชประดับ,พืชวัสดุ,พืชใช้เนื้อไม้,พืชให้ร่มเงา

ปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา

เนื้อไม้ ใช้ทำกระดาน เครื่องเรือน เครื่องมือเครื่องใช้ในร่ม และไม้จิ้มฟัน

เปลือก ใช้ทำเชือก

ใบ มีฤทธิ์เป็นยาระบาย

ผลเป็นยาสมานท้องและแก้โรคไต

เมล็ดนำไปอบ สามารถรับประทานได้

น้ำมันจากเนื้อในเมล็ดใช้ปรุงอาหารและใช้จุดไฟ

 

แหล่งอ้างอิง

สำนักงานหอพรรณไม้ สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพรรณพืช กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม. 2557. ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย เต็ม สมิตินันทน์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติม กรุงเทพฯ.

POWO (2019). Plant of the World Online. Facilitated by the royal Botanic Gardens, Kew. Published on the Internet, https://powo.science. kew.org/. Retrieved 23 May 2024.

TPL. 2013. The Plant List Version 1.1.Published on the Internet; Available Source: http://www.theplantlist.org/ (accessed 1st January), May 23, 2024.

WFO.  2024.  Sterculia foetida L. Published on the Internet; http://www.worldfloraonline.org/taxon/wfo-0000491589. Accessed on: 23 May 2024

รายการรูปภาพ

กลับหน้ารายการพรรณไม้