Muntingia calabura L.
Muntingia calabura var. trinitensis Griseb.
Muntingia glabra Spreng.
Muntingia rosea H. Karst.
ลำต้น เป็นเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 10 ม. ลำต้นมีเปลือกสีเทา กิ่งแผ่สาขาขนานกับพื้นดิน ตามกิ่งมีจะมีขนนุ่มปกคลุม และปลายเป็นตุ่ม เมื่อจับยอดอ่อนจะรู้สึกว่าเหนียวมือ
ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับแบบทแยงกัน ลักษณะใบรูปขอบขนานแกรมรูปไข่ ปลายใบเรียวแหลม โคนใบข้างหนึ่งมน ข้างหนึ่งแหลม ขอบใบหยัก มีขนปกคลุมหนาแน่น เส้นใบมี 3-5 เส้น ด้านบนมีสีเขียว ส่วนด้านล่างมีสีนวล ก้านใบยาว มีขน โคนก้านเป็นปม ๆ
ดอก เป็นดอกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ เหมือนง่ามใบ เวลาบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. ก้านดอกยาว มีขน กลีบรองกลีบดอก 5 กลีบ ไม่ติดกัน สีเขียว คล้ายรูปหอก ปลายแหลมเป็นหางยาว โคลนกลีบตัดด้านนอกมีขน ด้านในเกลี้ยง กลีบดอกมี 5 กลีบ สีขาว คล้ายรูปไข่กลับป้อม ๆ ย่น เกลี้ยง
ผล มีรูปทรงกลม ผิวบางเรียบ มีขนาด 1.5 ซม. เมื่อดิบจะมีสีเขียว เมื่อสุกแล้วมีสีแดง รสหวาน เมล็ดขนาดเล็ก ๆ มีจำนวนมาก
พบในป่าเบญจพรรณ
มีถิ่นกำเนิดจากเขตร้อนของทวีปอเมริกา
พบในอเมริกากลางและอเมริกาใต้
ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง
เปลือกลำต้น มีฤทธิ์เป็นยาระบาย
เนื้อไม้ ใช้ทำฟืนและถ่าน
ใบ ช่วยขับเหงื่อ
ดอก แก้ปวดศีรษะ แก้หวัด แก้ปวดเกร็งในทางเดินอาหาร บรรเทาอาการไข้
ผลสุก มีรสหวาน รับประทานได้ และเป็นอาหารของสัตว์ป่า
องค์การสวนพฤกษศาสตร์. 2546. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 7. พิมพ์ครั้งที่ 1.โอ.เอส.พริ้นติ้งเฮ้าส์. กรุงเทพมหานคร. 346 น.
สำนักงานความหลากหลายทางชีวภาพด้านป่าไม้ กรมป่าไม้. “ตะขบฝรั่ง.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://biodiversity.forest.go.th/index.php?option=com_dofplant&id=1133&view=showone (13 ตุลาคม 2559)
The Plant List. 2013. “Muntingia calabura L.” [ระบบออนไลน์]. แหล่งที่มา http://www.theplantlist.org/tpl1.1/record/kew-2507614 (13 ตุลาคม 2559)